เรื่อง  การส่งเสริมยุทธศาสตร์การพัฒนาคนเพื่อการพัฒนาประเทศ

จัดโดย คณะอนุกรรมาธิการด้านการศาสนา

ในกรรมาธิการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว  สภานิติบัญญัติแห่งชาติ

ร่วมกับสภายุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติ ในพระบรมราชูปถัมภ์


เรียน  นายสมพร  เทพสิทธา

              ประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านการศาสนาสภานิติบัญญัติแห่งชาติ        


     

ยุทธศาสตร์การพัฒนาคนเพื่อการพัฒนาประเทศ


ในหัวข้อ *** การจรรโลงพระพุทธศาสนาและรังสรรค์สังคม เป็นหน้าที่ของเราทุกคน

โดย อ. พิสุทธิศักดิ์  ประทุมสุวรรณ    วันที่ 26 พฤศจิกายน 2558


                  การเดินตามรอยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชหรือในหลวงของเรา (ไม่มีความขัดแย้ง ลดความขัดแย้งในสังคมได้แน่นอน)  ทุกศาสนามีทั้งคนดีและคนไม่ดี  ศาสนาพุทธเองก็แบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย  กลุ่มที่ต่างความคิดต่างวัฒนธรรมย่อมมีอยู่ในสังคม แต่เราอยู่ร่วมกันได้  ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม ฮินดู ฯลฯ  ก็ย่อมมีทั้งสองฝ่าย ทั้งคนดีและคนไม่ดีเป็นเรื่องธรรมดา โดยธรรมชาติย่อมเป็นเช่นนั้น  เราควรนำเอาฝ่ายดีมาเป็นแนวร่วมกับเราเพื่อให้เกิดความสงบและสันติสุขกับชาวโลก เน้นความจริงใจ ให้ใจซึ่งกันและกัน เคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน มองความสงบและสันติเป็นสรณะเป็นที่ตั้ง  เพราะถ้าเกิดความขัดแย้ง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ต้องประสบกับการสูญเสียและเสียหายทั้งสองฝ่าย  ผู้คนที่ไม่รู้เรื่องความขัดแย้งในแต่ละบริบทของสังคมที่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ไม่มีใครถอยให้ใคร สงครามย่อมเกิดขึ้นได้แน่นอน  ความหายนะสูญเสียย่อมตามมาเป็นเงาตามตัว  การรู้เท่าทันในบริบทของสังคมโลกยุคปัจจุบัน กับการเตรียมรับภาวะการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างฉับพลัน (รู้เท่าทันความจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

 

          การจรรโลงพระพุทธศาสนาและรังสรรค์สังคมเป็นหน้าที่ของเราทุกคน

                ( อ. พิสุทธิศักดิ์  ประทุมสุวรรณ )         

 

                  รัฐบาลและข้าราชการมาทำหน้าที่ในเชิงตัวแทนและเชิงสัญลักษณ์  การจรรโลงพระพุทธศาสนา จรรโลงสังคมไทยเป็นหน้าที่ของเราทุกคน  ไม่ควรคิดว่าเป็นเรื่องของมหาเถรสมาคม   สำนักงานพระพุทธศาสนา กระทรวงศึกษาธิการและรัฐบาลแต่เพียงผู้เดียว  รัฐบาลเป็นได้ประมาณสัญลักษณ์และตัวแทนมากกว่า เพราะเราเชื่อว่าผู้นำทางความคิดและจิตวิญญาณในการสร้างประเทศ ในการสร้างประเทศต้องขัดเกลาและตกผลึกไปด้วยกัน เรียนรู้ถูกผิดไปด้วยกัน ซื้อประสบการณ์ความผิดพลาดไปด้วยกัน นำมาเป็นครูสอนเรา สอนคนในประเทศ ไม่ควรแบ่งแยกชนชั้น  หาความเสมอภาคเท่าเทียมให้ดีที่สุด  ช่องว่างทางสังคมจะมีน้อยที่สุดเท่าที่เราจะทำให้มันเกิดขึ้นได้  ทางไปสู่ธรรมาภิบาลจะเป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงเป็นความหวังสุดท้ายที่เราจะเดินไปด้วยกัน  แต่ก่อนที่เราจะมารู้จักระบบธรรมาภิบาล คนไทยต้องรู้ถึงแก่นของพระพุทธศาสนาก่อน  องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ท่านสอนอะไร ปฏิบัติองค์ท่านอย่างไร ควรกระทำอันใดก่อนหลัง ทำตัวเองให้ตัวเองมีค่าอย่างไร อะไรที่เป็นการบอกว่าเคารพตัวเอง ทำไมพระพุทธองค์ไม่เคยรบชนะใคร ทำไมพระองค์ไม่เคยแพ้ใคร ทั้งนี้เพราะพระพุทธองค์ไม่เคยรบกับใครนอกจากกิเลสในตัวพระองค์เท่านั้น พระพุทธองค์ถึงไม่เคยแพ้หรือชนะใคร  ถ้าใครจะรบกับพระพุทธองค์ บุคคลนั้นย่อมรบอยู่ฝ่ายเดียว แพ้ชนะจะไม่เกิด สูญเสียจะน้อยที่สุด  คนที่ไม่รู้เรื่องความขัดแย้งก็จะไม่เดือดร้อน คือถือคติ”แพ้เป็นพระชนะเป็นมาร” ใช้เมตตาธรรมค้ำจุนโลก

                  ถ้าเกิดภาวะสงครามจะทำอย่างไร  ถือคติธรรม ธรรมะคือหน้าที่  คนที่มีส่วนข้องเกี่ยวกับหน้าที่นั้นจะต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดด้วยกาย วาจา ใจ ให้ถึงที่สุด


                  ศีลธรรมไม่กลับ โลกาจะวินาศ ( พุทธทาสภิกขุ )   

                  การรบชนะแบบไม่ต้องรบ (นักรบพุทธไม่เคยรบกับใคร ไม่เคยแพ้ใคร ไม่เคยชนะใคร)  

ใช้เมตตาบารมีต่อทุกคน ทุกฝ่าย ทุกชนชั้น ทุกลัทธิ ทุกศาสนา

                  โดยพฤตินัย พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่คนไทยนับถือมากที่สุด

                  โดยนิตินัย ทุกศาสนามีความเสมอภาคอยู่แล้วโดยธรรมชาติ ( อ. พิสุทธิศักดิ์  ประทุมสุวรรณ)


 
 
จำนวนผู้เข้าชม
 AmazingCounters.com